Other Pages and Shoutbox

February 17, 2011

ไม่รักก็บ้าแล้ว รักหวานๆของ รานกับ ดา ??!!

ดา  แม่ค้าส้มตำจำเป็น เพราะตกงาน  เลยต้องดิ้นรนหาเลี้ยงตัวเอง
ราน  เจ้าของร้านกาแฟ   หล่อ เข้ม เต็ม ซิกซ์ แพ๊ค
ใส สาว hi so เพื่อนนิทของ ราน  สาวที่มีคติว่า ดูเอาไว้ นี่ไง hi so เจ้าของร้านดอกไม้ที่(คิดว่าตัวเอง)เริ่ดที่สุดในเมือง







 สวัสดีค่ะ ชั้นชื่อ ดา เป็นสาวไม่สวยแต่เร้า.... วัยกลางคน  ยังหาผู้ชายดีดี มาเป็นสามีไม่ได้ อาจเพราะ ที่ดีๆ มันหนีไปแต่งงานกันหมด หรือ ไม่ก็หนีตามชายด้วยกัน   ชั้นตกงาน  สาเหตุน่ะเหรอ.. ชั้นมันดวงไม่ดี เรื่อง เป็นลูกจ้างคนอื่น   ไม่ว่า ทำงานที่ไหน หัวหน้างาน มันไล่ปล้ำชั้นตลอด ล่าสุด ชั้นเอา เหล็กคีบไฟไปคีบไข่ ของหัวหน้างานคนล่าสุด  ชั้นเลยต้องตกงาน จนถึงวันนี้   แต่ชั้นไม่ท้อ  เพราะชั้นตั้งใจว่า จะเปิดร้านขายส้มตำ!!
“โอ๊ยยย ทำไม มันร้อนจังวะ จะเผากันให้ตายเลยเหรอ “ ดาร้องโวยใส่พระอาทิตย์ที่ทำหน้าที่แผดแสงเฉกเช่นทุกวัน    ดา สาวที่ต้องหาเลี้ยงตัวเอง เธอเรียนมาไม่สูง เพราะไม่มีเงิน  พ่อ แม่ของดา ทิ้งดาไปตั้งแต่ อายุไม่กี่เดือน  ดาโตมาในบ้านเด็กกำพร้า   พอเธอโตขึ้น หาเลี้ยงตัวเองได้ เธอก็ออกมาหางานทำ แต่ดวงไม่ดี ถูกเจ้านายไล่เอาทำเมีย เกือบทุกที่  ดาเลย คิดจะมาเปิดร้านขายส้มตำในห้องแถวที่เช่าไว้ ..ห้องที่เช่าไว้มีสามห้อง  ห้องแรก เป็นของดา  ติดถนนพอดี  ห้องสุดท้าย เป็นร้านขายดอกไม้ ของใครไม่รู้   ส่วนห้องกลางยังไม่มีใครมาเช่า  ถ้ามีเงินชั้นจะเหมาไว้เองเลย ไม่ชอบให้ใครมาเช่าติด!! 
ต้องลองตำให้คนแถวนี้ ทานดู  ..ชั้นคิดในใจ ว่า ทำอย่างไร คนแถวนี้จะเชื่อว่า ชั้นทำมะละกอได้อร่อย เริ่ดมากๆ   ชั้นต้องหาทาง ลดต้นทุนให้มากที่สุด  ปลาร้าต้องทำเอง.. มีสูตรตัวเอง ว่าแล้วชั้นก็ลงมือ  ใช้ google ตามหาสูตรปลาร้า ทันที  มันต้องมีใคซักคน หลงบอกสูตรเทพๆ มาบ้างล่ะ..ชั้นลงมือค้นหาทันที และจดสูตรที่น่าจะกินได้ และทำไม่ยาก ออกมา ได้   สาม หน้ากระดาษ  ชั้นต้องลองทำดู จะได้รู้ว่า มันต้องปรับปรุงยังไง
แดจังกึม ยังมีน้ำปรุงเป็นของตัวเอง ทำไมชั้นจะมีปลาร้า เป็นของตัวเองไม่ได้  ไม่แน่นะ วันนึ่ง ชั้นอาจมี แบรนด์ เป็นของชั้น ฮ่าๆๆๆ   เช้าวันรุ่งขึ้น ชั้นไปตามหาวัตถุดิบในรายการมาทั้งหมด และเริ่ม ทำสูตแรกเลย..เออ..ต้มมันที่ไหนดีนะ.. เอานี่ล่ะ หน้าบ้านเลย
ชั้นลงมือ ปรุงน้ำทิพย์ของชั้น... พอมันเดิด ชั้นก็ใส่เครื่องเคราลงไป..โห กลิ่นมันใช่ย่อยที่ไหน..แต่ก็หอมดีนะ..กือม ยังขาดอะไรไปนะ
“ฮัดเช้ย!! ใครต้มขี้วะ เหม็นมาก  เรียกเทศบาลมาจัดการด้วย!” เสียงจาม พร้อมเสียงคำรามบ่นของผู้ชาย มาจากทางไหนนะ เค้าว่าชั้นเหรอ? ไม่ใช่ม๊างงง ปลาร้าชั้นหอม ไม่เหม็นเหมือนขี้นะยะ

“คุณนี่เอง คุณครับ คุณทำอะไร  เกรงใจ เพื่อนบ้านด้วยนะครับ มันเหม็นมาก ติดเสื้อผ้า เข้าห้องนอนผมหมดแล้ว” ชายหนุ่มหน้าตาดี แต่ปากเสีย มายืนสั่งให้ชั้น หยุดการคิดค้นสูตรปลาร้า 
“นี่คุณ  ชั้นทำอยู่เขตบ้านชั้น คุณเหม็นคุณก็ไปปิดประตูสิคะ “ชั้นสวนคืนแต่ต้มปลาร้าต่อไป 
“ถ้าคุณไม่หยุด ผมจะฟ้องเจ้าของห้องแถว ให้เค้าไล่คุณออก  เพราะคุณสร้างความเดือดร้อนให้ผู้เช่าคนอื่น“   เอ๊ะ ตาคนนี้ ทำไมมันจุกจิกนักวะ  แมนมั๊ยยะ แมนมั๊ย  ชั้นปิดฝาหม้อปลาร้า เพราะ มันต้มได้ที่พอดี    ก่อนจะเดินเข้าบ้าน ชั้นหันไปฝากวลีว่า” ชั้นไม่ได้กลัวคุณนะ แต่ปลาร้าชั้นมันเสร็จพอดี  หมดแล้วจะมาต้มใหม่ หรือ คิดสูตรใหม่อีกที”แล้วชั้นก็เดินเข้าบ้านไป  ว่าแต่ตาคนนี้ใคระ ทำไม มันทำมาดใหญ่จัง  ช่างมัน.. ไปลองทำส้มตำดีกว่า.. ชั้นว่า สวรรค์เข้าข้างชั้นนะ เพราะ ปลาร้าที่ชั้นต้มครั้งแรก ตามสูตร สุ่ม ดอท เน็ต มัน เทพมากๆ!!  ไม่ต้องให้ใครชิมก็รู้ว่า  ส้มตำของชั้น ไม่เป็นรองใคร!!
วันต่อมาชั้น เริ่มตั้งแผงร้านส้มตำ เอาแบบไม่เยอะ นิดหน่อยก็พอ  ป้ายชื่อ ก็ทำเอง..”ส้มตำ น้องดา” อู๊ยยยย  หวาน แอ๊บ แนว แบ๊วๆ  หลอกได้หลายคน
เหลือบไปทางขวามือ.. บ้านตาปากจัดนี่นา.. อ๋อ.. เปิดร้านกาแฟ  สงสัยกลัวกลิ่นส้มตำ หอมๆของชั้น ไปดึงลูกค้ามาล่ะสิ  เชอะ..
“ซื้อส้มตำหน่อยจ้ะ มีตำอะไรบ้าง”  ลูกค้าคนแรกของชีวิตแม่ค้าส้มตำ มาแล้ว!!ชั้นน่าจะมี ป้ายสลักชื่อ เป็นที่ระลึกให้ลูกค้าคนนี้นะเนี่ย
“มีตำไทย ตำปู ตำมั่ว ตำทะเล ตำผลไม้ ตำปลาร้าค่ะ “ชั้นท่องมาอย่างดี ไม่มีพลาด
“เอา..ตำไทยนะคะ  ไม่ใส่ปลาร้าค่ะ แบบไม่เผ็ด พริกสองเม็ด ไม่ใส่น้ำตาล “ ..คุณลูกค้ากำกับมาเสร็จ   หมูมากๆ ชั้นตำด้วยความรวดเร็ว  จัดใส่ถุง ใส่ผัก จนเรียบร้อย  นี่ค่ะ  25 บาท  ชั้นบอกราคา แบมือรอเงิน และยื่นถุงให้
“แพงจังเลย ไม่ค่อยใส่อะไร ทำไมตั้ง 25 บาท  อ่ะนี่ 20 บาท ก็พอ “ ลูกค้าคนนั้น เอาเงิน 20บาทวางแหมะบนมือชั้น แล้วคว้าถุงส้มตำจากมือเดินออกไปอย่างไว ชั้นยืนงงๆ  กำลังจะก่าคืน แต่ไม่ทัน
“อะไรวะ!! เจอลูกค้ากวน ต. ตั้งแต่ครกแรกเลย  “ชั้นสบถออกมาด้วยความศูนย์ อย่างแรงงงง เอาวะ อย่างน้อยก็ได้มา 20 บาท   ชั้นนั่งดู ทีวี อยู่ในเพิงร้าน  เงียบจัง..สงสัยยังไม่มีใครรู้จัก ต้องโปรโมททางเน็ต ...ส้ม..ตำ... รส เด็ด..เผ็ด ตาย ไม่เอาเรื่อง ไม่เอาความ ...ที่อยู่.....  OK !! ต้องรอดูผล ซะหน่อย 
เช้าวันต่อมา ชั้นก็เปิดร้านตามปกติ  และร้านกาแฟข้างๆของตาปากเสียก็มาเปิดพร้อมชั้นด้วย
“อ้าว คุณ!! ขายได้กี่ร้อยล้านแล้วล่ะ ปลาร้าของคุณน่ะ”  หนอย..มาประชด เดี๋ยวแม่สาดด้วยปลาร้าซะหรอก
“มากกว่า กาแฟเหม็นๆของคุณก็แล้วกัน แต่ถ้าคุณขายไม่ดี อยากได้สูตรปลาร้าชั้นใส่ลงไปในกาแฟ ชั้นคิดราคาพิเศษให้นะ”  ชั้นเอาคืน  ตาคนนั้นกำลังจะอ้าปาก ตอบคืนมา ชั้นไหวตัวทัน เลย เดินหนีเข้าบ้านไปก่อน...
 
“ตุ้บ!! โอ๊ย....เจ็บ!!” เสียงเหมือนอะไรใหญ่ๆ หนักๆ ตกลงพื้น ดังพลั่ก ชั้นหันไปตามเสียง เจอตาปากเสีย นอนหงายท้องแอ้งแม้งอยู่พื้น  สงสัยตกบันได เพราะชอบมาก่อนกวนชั้น เจ้าที่เลยลงโทษ เชอะ สมน้ำหน้า!!คนอย่างชั้ คนดีผีคุ้มย่ะ  ชั้นคิดว่า เดี๋ยวเค้าลงลุกขึ้นมาเอง แต่ผิดคาด ชั้นเดินออกมา ตาคนนั้น ยังนอนอยู่ !!! เฮ้ย! อย่ามาตายแถวนี้นะ ชั้นกลัวผี!   ชั้นค่อยๆ เดินย่องไปดู..  อ้าว เวร.. สลบไปนี่หว่า  เอาไงดีวะ...ชั้นไม่อยากให้ใครมาตายแถวนี้  ชั้นเลยต้อง อุ้ม ปน ลากตาคนนี้ เข้าบ้านของเค้าไป .. ตัวหนักชิบเป้ง คนห รือ ควายวะ...พอลากพ้นบันไดมาชั้นหมดแรง เลยนั่งลงแหมะตรงนั้น แต่ก็ต้องตกใจ   ชั้นลากมาผิดคนหรอเหรอเปล่า ทำไม ตอนลากมาผมสั้น พอลากมาถึงที่ผมยาว!!  ตอนนั้นเอง ตาปากเสียลืมตาขึ้นมา
“ว๊ากกกก  ตาบ้า!! นายนี่มันคน หรือ ผียะ ลืมตามาก็ไม่บอกแล้ว ผมทำไม หดๆยาวๆ” ชั้นละล่ำละลักถาม 
“ผมใส่วิกน่ะคุณ  ผมชอบวิกผม ชอบเปลี่ยน แต่ไม่ชอบตัด แล้วขอบคุณนะ ที่ช่วยลากผมมาในบ้าน คุณนี่ก็ใจดีนะ” พูดจบ ก็มาหลิ่วตาให้ชั้น



“เออ งั้นไม่ตายก็ดีแล้ว ชั้นไม่อยากเห็นใครตาย” ชั้นลุกขึ้นจะเดินหนี
“เดี๋ยวสิคุณ..โอ๊ย!!”  แน่ะ สำออย.. “เจ็บหลัง”  แล้วตานั่นก็ล้มลงอีก ชั้นทนไม่ได้เลย ประคองพาไปนั่งที่ Sofa  ชั้นมองไปรอบๆบ้าน ดูรกมาก แต่รก สะอาด  กลิ่นกาแฟ หอมนุ่ม อบอวลไปทั่วบ้าน  รู้สึกอบอุ่นดีจัง..ชั้นไม่เคยรู้สึกถึงความ อบอุ่นมานานแสนนานแล้ว.. 
“ขอบคุณครับ  ..คุณ.เรามาดีกันนะ  ผมชื่อ รอน “ ตาปากเสียแนะนำตัวเอง แล้วเขยิบที่ให้ชั้นนั่ง ชั้นมองไปรอบๆ ไม่มีเก้าอี้ เลย หย่อนก้นลงข้างๆ “เราไม่ได้โกรธกันนี่”ชั้นทำเป็นไม่รู้เรื่อง  สงครามปลาร้า “ชั้นชื่อ ดาค่ะ “ ชั้นแนะนำตัว บรรยากาศเริ่มดีขึ้น  เราเริ่มนั่งคุยกัน จนเย็น..ลืมไปเลยว่า ร้านส้มตำยังจัดไม่เสร็จ!!
“ตายแล้วคุณ!! ชั้นลืมเปิดร้าน!! รายได้หายหมดเลย เว๊นนนนนน”ชั้นเคาะหัวตัวเอง  รานหัวเราะ”เอางี้ งั้นผมตอบแทนที่คุณช่วยเหลือผม  ให้ผมเลี้ยงอาหารเย็นคุณนะ ผมจะทำอาหารให้คุณทาน” รานตอบยิ้มแย้ม
“ไหวเหรอคุณ ยังเจ็บอยู่เลยนะ แล้วชั้นจะท้องเสียมั๊ยยะ” จะวางยาพิษ ชั้นหรือเปล่านะ
“ถ้างั้น คุณก็มาช่วยผมในครัวนะ ตกลงมั๊ย” รานตอบแบบสรุปแล้ว ยิ้มที่มุมปาก   “ เออๆๆ ได้ๆ ดีกว่าปล่อยคุณไปทำคนเดียว เดี๋ยวใส่ยาลงอาหารให้ชั้นทาน “แล้วเราสองคนก็เข้าครัวด้วยกัน  เย็นวันนั้น  ชั้นได้ทานข้าวกับคนแปลกหน้า แต่เริ่มที่จะคุ้นเคย  เราคุยกันหลายเรื่อง จนดึกดื่น  ชั้นเลยเก็บครัว ล้างจาน แล้วขอตัวไปนอน
“ฝันดีนะครับ และขอบคุณมาก สำหรับวันนี้”รานเดินมาส่ง ดาที่ประตู
“ขอบคุณสำหรับ อาหารเย็นนะคะ  วันหน้า ชั้นเลี้ยงส้มตำคุณนะ”
“ฮ่าๆๆๆ ได้ครับ แต่ไม่ใส่ปลาร้านะครับ”  เราสองคน หัวเราะ พร้อมกัน  ชั้นเดินมาถึงห้อง มองแผงส้มตำ กับผักเฉาๆ เฮ้อ..ต้องไปซื้อผักใหม่อีกแล้วชั้น    


   เช้าวันต่อมา ชั้นตื่นสาย เพราะปวดตัว ตอนไปลาก อีตาราน จากบันได ขึ้นมาที่บ้านของเค้า...โอยยย ยังกับแบกควาย( ไม่รู้ว่า ควายหนักกว่านี้มั๊ย).. เปิดประตูบ้านออกมา เจอ   กาแฟ ขนมปัง.. หอมจัง... ชั้นไม่เคยสั่งจากไหนนี่นา..ส่งผิดหรือเปล่าวะ 
“ชอบมั๊ยครับ  อรุณสวัสดิ์ครับ  ดา”  ราน โผล่หน้ามาทักทายข้างรั้ว.. “ผมชงให้พิเศษเลยนะ” ยิ้มหวาน.. อือม ตานี่ หล่อไม่เบานะ

“ขอบคุณค่ะ แต่ทีหลัง ไม่ต้องลำบากนะ  “ชั้นยกกาแฟ รวดเดียวจบ
“คุณนี่ จิบกาแฟ ไม่มีศิลปะเลยนะ  “ทำไมยะ จะจิบ จะยกซด มันก็ผ่านคอ ลงท้องเหมือนกันนั่นล่ะย่ะ เรื่องมากจริงๆ เสียเวลาทำมาหากินชั้น
“รานน รานขา... “ เสียงเล็กๆ ระคายรูหู ลอยมาตามลม แล้วมีผู้หญิง ผมสีชมพูเหมือนการ์ตูน ร่างบางเล็ก เดินแกมวิ่งมาทางชั้นกับราน  
“ใส ตามหาแทบแย่... คุณแม่บอกว่า รานมาเช่าอยู่แถวนี้   ใสดีจากเลยนะคะ เนี่ย.. ใสก็เลยเช่าห้องถัดไปจากราน เราจะได้อยู่ด้วยกัน” ยัยผมสีการ์ตูนจ้อ ไม่หยุด แล้วจิกหางตามาทางชั้น..นี่ถ้าชั้นมีสากในมือ ชั้นจะเขวี้ยงใส่ให้ดู หนอย มามองชั้นแบบนี้ได้ไง
“ใส..ห้องที่คุณว่า มีคนเช่าแล้วนี่ คุณมาเช่าต่อได้ยังไง”
“ก็เอาเงินฟาดใส่ ห้าเท่า พร้อมกระเป๋า ปลาด๊า... ยัยที่อยู่ห้องนั้น ก็รีบย้ายของให้ดาเลยค่ะ  “ยัยใส พูดหน้าเชิดๆ เอาเงินฟาดหัวว่างั้นเถอะ ยัยนี่เป็นคนแบบไหนนะ แต่ที่แน่ๆ ท่าทางจะไม่ถูกเส้นกับชั้นแล้วล่ะ  รานถูกยัยใสลาก แบบไร้มารยาท(กับชั้น) 
ดาเปิดร้านขายส้มตำตามปกติ ลูกค้ามาอุดหนุนมากขึ้น เพราะ ติดใจรสชาต เผ็ดสะเด่า  เต่าวิ่งแจ้นของดา   ส่วนกิจการร้านกาแฟของรานก็ไปได้ดี  เพราะลูกค้าจะสั่งกาแฟเย็น เครื่อง ดื่มเย็นๆ มาแก้เผ็ดเสมอ    ทางด้านยใส hi so ก็นั่งประดิษฐ์ดอกไม้ไป แบบไม่สนใจลูกค้า เพราะเธอรวย  เธอมาเปิดร้าน เพื่อมาเฝ้ารานเท่านั้น   ชั้นชอบแอบมองรานเวลาเค้าชงกาแฟ  รานจะดูมีความสุขมาก  บางทีเค้าเหนื่อยแต่ก็ดูเค้าสุขไจ นี่ล่ะมั๊งที่เรียกว่า เหนื่อยแค่ไหนก็ชื่นใจ ถ้าได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรัก.  แล้วชั้นล่ะ ไม่ได้รัก ครก กับ สากเลย แต่ต้องมาขายส้มตำ... เย็นวันนิ ปิดร้านเร็วหน่อย เพราะเหนื่อย แขน ตำทั้งวัน  ...อือม.. กินอะไรเป็นข้าวเย็นดีนะ

ก๊อกๆๆๆๆ เสียงเคาะประตูหน้าบ้าน  “ ดาครับ   ผม ราน เองครับ” รานมาได้ไง ยัยใส หายไปไหน “ ผมมาคนเดียวครับ “ ใครถามวะ  ชั้นเดินไปเปิดประตู  รานถือสลัดหน้าแปลกๆมา อะไรก็ไม่รู้ ท่าทางจะหรู และแพง  ดายิ้มสดใส ก่อนจะบอกว่า  เค้ามันเป็น ผัก ผลไม้สดจาก เขต เมดิเตอร์เรียน รานได้มาแบบสดๆ  เลยอยากให้ชั้นลองชิม
“เห็นชั้นเป็นหนูลองยาหรือ หน่วยกล้าตายเหรอยะ” ชั้นแขวะ  รานหัวเราะ และเดินเข้าไปในบ้านชั้น  
“ผมเดาว่า ดายังไม่ทานข้าว  ผมเลย ทำอาหารเผื่อด้วย” รานแกะห่อปิ่นโตออก โฮ้โห...  ล๊อป สะ เต้อออ  อบเนย เกิดมาไม่เคยกิน เคยเห็นแต่ใน ทีวี  ชั้นกลืนน้ำลายแบบเสียมารยาท 
“ทานด้วยกันนะครับ  ใสไม่มารบกวนหรอก เค้ากลับบ้าน ไปเอารถยนต์มาใช้ คงไปหลายวัน” ดาก้มหน้าก้มตาจัดอาหารไปที่โต๊ะ  เออ..ตาคนนี้ ทำยังกับบ้านตัวเอง  ชั้นไม่ถามอะไรซักคำ  เพราะรอกินอย่างเดียว  ....
“ราน  คุณชอบกาแฟมากเหรอ”  รานไม่ได้ตอบ  แต่อมยิ้มและพยักหน้า  “แล้วคุณล่ะ ชอบส้มตำมากเหรอ ถึงเปิดร้านขายส้มตำ” น่าน..ถามคืนชั้นจนได้
“ไม่ได้ชอบ แต่ไม่มีทางเลือก  ต้องหาเลี้ยงปากท้องตัวเอง” ชั้นจิ้ม ขนมแปลกๆ ครีมขาวๆ เข้าปาก  อือม หวาน หอม ดี แฮะ..”แล้วยัยใส แฟนนายน่ะ  เค้ามาว่า แน่นะ ที่มานั่งกินข้าวกับชั้นแบบนี้ เดี๋ยมารู้ทีหลัง มาแว๊ดใส่ชั้น ชั้นเขวี้ยงด้วย สากคืนนะ”  ..อือม..กุ้งมังกร อบเนย หอม จริงๆ เนื้อนุ่มมาก
“ใส เค้าคงชอบผม แต่ ผมไม่ได้คิดอะไรกับเค้าแบบแฟน”  รานจิบกาแฟ...แตะอาหารนิดเดียว กลัวอ้วนมั๊ง
“แล้วคุณบอกเค้าไปมั๊ยล่ะ ว่า คิดกับเค้าแบบไหน  เค้าตามคุณต้อยๆๆๆๆ น่าสงสารเค้านะ “ ...ขออีกคำเถอะนะ กุ้งมังกร ชาตินี้ ไม่รู้จะได้กินอีกทีเมื่อไหร่
“เค้าก็น่ารักนะ แบ๊วๆ ดี สดใสๆ แต่โดยรวม ไม่ตรงใจผมเท่าไหร่”  รานจ้องหน้าชั้น แต่ชั้นหลบตาลง และเตรียมเล็งส้อมไปที่ ผักโขม อบชีส
“นายชอบแนว ต๊องๆ แบ๊วๆ เหรอ “ครีมเชีสเหนียวๆ เยิ้มในปาก  หอม หวาน มัน....
“ก็ไม่ซะทีเดียว.. ผมชอบแบบ ผสมผสาน แต่ชอบให้ผู้หญิงมีความเป็นหญิงมากหน่อย” ...อือม ไม่ใช่ชั้น หรอกย่ะ ชั้นไม่มีความหวานแบ๊ว ..เออ แล้วชั้นกังวลทำไมนะ  อิมดีกว่า เดี๋ยวอ้วน..ชั้นเงยหน้ามองรานแป๊บเดียว แต่ต้องตกใจ เพราะรานจ้องหน้าชั้นอยู่แล้ว
“นายจ้องชั้นทำไม .. ชั้นกินส่วนของนายไปใช่ป่ะ” อือม กาแฟ ก็หอม  ลงตัวดีจริงๆ  รานหัวเราะแล้วชี้ไปที่ ปากของชั้น บอกว่า มีครีมติดอยู่ ชั้นใช้ลิ้นตวัดเลีย ทันที
“โห คุณ!! ใช้ผ้าเช็ดปากสิ ทำยังกับ กบ กิน แมลง” ชั้นไม่สนใจ ใชลิ้นเลียโดยรอบปาก ประชดทันที  รานทำหน้าเหย 
“ผมมีข้อเสนอนะ ถ้าคุณไม่อยากเปิดร้านส้มตำ คุณมาหุ้นกับร้านกาแฟผมมั๊ย ”  รานพูดขึ้นมา ตอนชั้นกำลังล้างจาน
“ไม่ล่ะ ชั้นไม่ชอบหุ้นกับใคร ดวงไม่ขึ้นน่ะคุณ  ชั้นทำไหว แค่ร้านส้มตำเล็กเอง“ ใครว่าล่ะ แต่ละวันชั้นเหนื่อยแทบตาย คนช่วยก็ไม่มี  ทำทุกอย่าง ขาดแต่ปลูกต้นมะละกอ กับ มะเขือเทศ และพริก!!
“งั้นคุณก็ขายพวกยำต่างๆสิ วัยรุ่นเค้าชอบนะ  ไม่อ้วนด้วย คุณก็ถนัดอาหารแนวรสจัดนี่นา ส้มตำคุณก็มาปรับเป็นแบบ ยำๆ คลุกๆ ก็ได้ ไม่ต้องตำโป๊กๆ ” ก็ดีสิยะ พอแก่ตัวมา ชั้นก็กล้ามแขนฟิตปั๋ง ไม่เหี่ยว ไม่ต้องสัยเงิน กระชับกล้ามเนื้อ  ชั้นไม่ตอบ แต่ชวนรานออกไปนั่งสูดอากาศหน้าบ้านแทน  เรานั่งดูดาว จนดึก พูดคุย แลกเปลี่ยนไอเดียกัน  รานเป็นคนฉลาด เป็นคนมีความมุ่งมั่น แต่โลกส่วนตัวสูง  ส่วนชั้นสิ ดูเรื่อยเปื่อยยังไงไม่รู้   ชั้นนั่งคิด เพลินๆว่า ชั้นกับราน สนิทกันไวเกินไปมั๊ย หรือ เพราะ เราถูกคอกัน  แต่ช่างมันเถอะ คนเราบ่อยไป รู้จักกันมานาน เป็น สิบปี แต่ดันไม่รู้ใจกัน ไม่จริงใจกัน         
อีกไม่กี่วัน ยัยหัวการ์ตูนก็กลับมา  ชั้นเห็น she  เข้าออก ร้านกาแฟ นายรานทุกวัน ยังกับว่าเป็นเจ้าของร้านซะงั้น  ร้านดอกไม้ตัวเอง ไม่เคยเฝ้า  สงสัยจะเปิดให้คนอื่นว่าไม่ได้ว่า ตัวเองมาเฝ้าผู้ชายแถวนี้  เหมือนหมาเฝ้ายางรถ

“นี่เธอ  ส้มตำซักจานสิ ตำแบบสะอาดๆ นะ ตำไทยๆ ไม่ใส่ปลาร้า  กุ้งแห้งให้สดสะอาด ถั่วลิสงต้องเอาที่คั่ววันนี้  หอมๆ”  สั่งแล้วเดินเข้าร้านกาแฟ รานไป
ดูมันสั่ง.... จานละ 30 บาท มันสั่งยังกับ สั่งจานละ 300 บาท  ได้... เดี่ยวจัดให้  ซักพัก ชั้นก็เดินถือจานส้มตำไทย มีฝาปิดมิดชิดกันฝุ่นไปให้ยัยใส  ที่นั่งเสนอหน้าหวานๆ เรียกลูกค้า อยู่ในร้านกาแฟ
“ได้แล้วค่ะ   30 + 20 ค่าเดินมาส่ง” ชั้นบวกค่าจัดส่งไปด้วย

“อ่ะ เอาไป  100 บาท ไม่ต้องทอน”  ส่งเงินมาให้ชั้น พร้อมท่าทางเชิดๆ  ชั้นเดินหันหลัง ออกประตูไป  ได้ยินเสียงร้อง กรี๊ด ๆๆๆ และเสียง จาน ชาม ตก ..จานชั้นมั๊ยนะ  ไม่เป็นไร ถ้าใช่ เดี๋ยวคิดเงินเพิ่ม  ชั้น แอบเดินกลับไปดู  เจอยัยใส กระโดดเหยงๆ อยู่บนโซฟา แล้ว รานก็เข้ามาดูว่าเกิดอะไรขึ้น
“รานคะ ราน!!! ยัยแม่ค้าส้มตำ มันแก้งใสค่ะ ใสสั่งส้มตำไทย   ดูมันสิคะ มันใส่กุ้งเต้น ตัวเป็นๆ มาเต้นอยู่ในจานให้ใสด้วย  ถั่วคั่วก็ไม่แกะเปลือก  ใสไม่ยอมนะคะ รานต้องจัดการให้ใสนะ “  ชั้นเดินเข้าไปชี้แจงข้อกล่าวหาทันที
“ก็คุณสั่งแบบมีกุ้งแห้งให้สดสะอาด ถั่วลิสงต้องเอาที่คั่ววันนี้  หอมๆ กุ้งเต้น ตัวเป็นๆ สด สะอาด ชั้นล้างอย่างดีเลยนะ ไม่มีดินที่ง่ามขา รับรองได้  ส่วนถั่วลิสง ก็คั่ว เมื่อกี๊เลย ทั้งเปลือก  แต่คุณต้องแกะเปลือกเอง  เพราะถ้าชั้นแกะมาแล้ว กลิ่นหอมมันจะหายไป ไม่ตรงตามที่คุณสั่ง แล้วชั้นผิดตรงไหน!!” ชั้นตอบ แบบฉะฉาน  “ อ้อ..จานชั้นแตก  จานใบนี้ ซื้อมา 25 บาท แต่ คิดค่าเสียหาย 500 บาทนะ เพราะชั้นดูแลมันมานาน  และเสียน้ำยาล้างจานกับมันไปมาก  เก็บเงินที่ไหน หรือ พร้อมเมื่อไหร่เดินมาจ่ายด้วย“  ชั้นเหลือบมองราน ที่ยืนอึ้งอยู่ แล้วชั้นก็เดินกลับร้านไป รีบตำส้มตำให้กับลูกค้า ที่รอ รสเผ็ด สะเด่า อยู่คิวยาว 
“เจ๋งมากเลยค่ะ พี่ หนู ไม่ชอบ ยัยหัวชมพู ตั้งแต่เดินมาสั่งส้มตำกับพี่แล้ว  พี่แมนมากเลยอ่ะ “  ลูกค้าวัยรุ่น คนหนึ่ง ชื่นชมชั้น ชั้นยิ้มตอบ แต่ไม่ได้พูดอะไร  ในใจนึกโมโห  ให้สองคนนั้น  ไม่ทำไม...  เย็นวันนั้น ชั้นตำ จนครกแตกไป สองใบ.... ปวดแขน....อือม.. ไดอารี่ที่รัก..วันนี้ชั้นหงุดหงิดจัง ไม่อยากเห็นหน้าราน แต่ก็อยากให้เค้าแวะมาชวนทานกาแฟ เหมือนวันก่อน..ชั้นเป็นอะไรไปนะ




 คืนนั้น นอนไม่หลับ ชั้นเลยนั่งเล่นคอม .. ก๊อกๆ เสียงเคาะกำแพง.. หรือ นกหัวขวานมาเจาะผนังวะ ..
“ดา ..ดาครับ นี่ผมเอง ราน” เสียงดังมาจากข้างกำแพง  เออ ห้องชั้นกับรานติดกันนี่นา มีแต่กำแพงกั้น  ชั้นแนบหูกับกำแพง “ มีอะไรยะ  ราน ชั้นจะนอน“ แต่รานแหย่กลับมาว่า  นอนได้ไง เสียงกดแป้น คอม ดังขนาดนั้น  เอ๊ะ อีตานี่ แอบฟังชั้นเหรอยะ  ชั้นอ้อมแอ้มไปว่า จะปิดคอม จะนอนแล้ว
“คุยกับผมก่อนนะ ดา.. วันนี้ ใสแกล้งคุณก่อนใช่มั๊ยครับ” เออ ..ไม่โง่นี่นา ชั้นจะได้ไม่ต้องพูดมาก
“ใช่แล้วจะทำไม เค้าควงหวงแฟนเค้าล่ะ เค้าเลยมาก่อกวนชั้น” ชั้นนั่งพิงกำแพง   เปิดไฟสลัวๆ รอฟังเสีงของรานจากอีกฝั่ง
“เค้าไม่ใช่แฟนผม  ผมไม่ได้ชอบเค้า  “ เสียงรานเลื่อนเก้าอี้มาใกล้ๆ กำแพง  ...เสียงจิ้งหรีดร้อง..เงี๊ยบ เงียบ มีแต่เสียงเราสองคนคุยกัน

“มาบอกชั้นทำไม” ใจชั้นเต้นแรงขึ้น..เออ  สชั้น โด๊ป กาแฟมากไป... เพลง When you say Nothing at all ดังขึ้นมา..จากห้องของรานเหรอ..อือม เพลงนี้ชั้นชอบมากๆ  ...เราสองคนเงียบ ไม่มีเสียงคุยกัน เรานั่งพิงกำแพง ฟังเพลงจนเพลงจบ.. 
“ชั้นไปนอนก่อนนะ “ชั้นรีบตัดบท ก่อนที่จะนั่งถึงเช้า.. รานเงียบ สงสัยหลับไปแล้ว
“ฝันดีนะครับ แล้ว  เอ่อ.. ไม่มีอะไร  ฝันดีครับ ดา “ ตาคนนี้ !! พูดก็ไม่จบ มาพูดให้คิด เดี๋ยวแม่ดีด เปรี้ยง  ชันอยากรู้จังว่า รานเค้าจะนั่งจนถึงเช้ามั๊ยนะ..ชั้นจะนอนตรงนี้ล่ะ ตรง sofa ใกล้ๆที่เค้านั่งพิงกำแพงอยู่   ชั้นหลับไปด้วยความเหนื่อยอ่อน...



ในฝัน ชั้นมีรานมาอยู่ด้วย  เป็นฝันที่เข้าข้างตัวเองที่สุด  เฮ้ย!! เดี๋ยวๆๆๆ นี่หมายความว่า ชั้นชอบ อีตารานเหรอ.. โอ้วว โน่ โหน่ โน   น่าอายว่ะ ผู้ชายเค้ามาแบบ เพื่อน ชั้นดันมาคิดแบบ ผัว เอ๊ย แบบ แฟนได้ไง...ชั้นสลัดความคิดนี้ออก...และนอนหลับไม่สนิทจนถึงเช้า...




ชั้นลงมาเปิดร้านตามปกติ  แต่ทำไม รานไม่ลงมาเปิดร้านนะ .. อือม สงสัยคงเปิดสายมั๊ง  นันแน่ะ     ยัยใส เดินมาแล้ว  ชั้นรีบเดินหลบเข้าไปในบ้าน   ชั้นอยากมีวันที่ดี ดี โดยที่ไม่มีเรื่องกับยัยหัวชมพูคนนี้  เสียงยัยใส เคาะประตูบ้านราน ผสมเสียงเรียกอย่างดัง   ชั้นแอบมองอยู่ขอบประตู  เหมือนคนบ้าว่ะ มาแอบดูเค้าทำไมวะ  ซักพักประตูแง้มออกมา   แล้วชั้นเห็นยัยใสเดินเข้าไป...       ประตูปิดลง ชั้นรู้สึกเจ็บยังไงไม่รู้ .. ทำไมไม่เปิดร้าน  ไหนบอกว่า ไม่ได้เป็นแฟนกับใส แล้วที่เห็นมันอะไร  ปิดร้าน  เปิดประตูรอกัน..อ้อ  อยากสวีทกัน สองต่อ สองล่ะสิ ผู้ชาย   มะ แร่ง เชื่อไม่ได้ซักคน!!  ชั้นสูดลมหายใจ  แล้วเดินเข้าครัว ไปเอาของมาตั้งร้าน... น้ำตาไหลออกมา..ชั้นทรุดลง นั่งกับพื้นห้องครัว  เสียงลูกค้ามาเรียกซื้อส้มตำ  ชั้นอยากตะโกนไปว่า จะแดกอะไรแต่เช้า ยังตั้งร้านไม่เสร็จ.!! แต่ชั้นเหมือนไม่มีแรง ลำคอตีบตัน ไม่มีเสียง มีแต่น้ำตาไหลออกมา เป็นทาง ,,,







วันนั้น ชั้นเปิดร้านขายส้มตำ ตามปกติ  ร้านกาแฟของราน ก็ยังปิดเงียบ  แต่ชั้นมองเห็นแสงไฟ จากข้างใน  ...วันนั้น ชั้นตำส้มตำ ครก แตกไปเก้าใบ... หมดแล้ว..ชั้นต้องไปซื้อครกใหม่... หรือชั้นจะเลิกขายแล้วย้ายไปขายที่อื่นดีนะ .. ชั้นได้ยินเสียงเพลงบ้านไหน เปิดวะ.. โคตรบาดใจเลย  เพลง เศร้า  ใครร้องไม่รู้ แต่ทำนองโดนมาก!! ชั้นรีบเก็บของเข้าบ้าน  แต่ยังแอบมองเข้าไปบ้านราน  แอ๊ดดดด เสียงประตูบ้านรานเปิดออกมา ยัยใสเดินออกมาจากประตู  เหมือนจะยืนคุยกับราน..เฮอะ..คงปลดเปลื้องกันจนเสร็จกิจแล้วสิ..ทั้งวันแล้วนี่ .. . จากนั้น ยัยใสก็เดินกลับออกไป ชั้นรีบแว๊บหัวเข้าไปที่ประตูบ้านชั้น เพราะชั้นเห็นราน เหมือนจะโผล่หน้าออกมา...ใจชั้นเต้บ ตุ้บๆๆๆ  ชั้นเป็นอะไร?? ทำไม ไม่ทักทายเค้า เค้าคิดเราแค่แบบเพื่อน แบบคนรู้จัก  เราคิดมากไปเอง...ชั้นเก็บข้าวของ  อาบน้ำแล้วขึ้นห้องนอน..  ไม่หิวข้าว ไม่อยากกินอะไรเลย  สงสัยจะผอมก็งานนี้ล่ะวะ   เชื่อมั๊ยว่า ชั้นเป็นบ้า นั่งพิงผนังห้อง ที่ชั้นนั่งอยู่เมื่อคืน   แต่ต่างกันที  อีกฝั่งของห้อง ไม่มีราน นั่งพิงอยู่  ชั้นเหลือบมองนาฬิกา มองแจกัน มองทุกอย่างรอบห้อง  ชั้นไม่อยากขยับอยากนั่งอยู่ที่นี่ เหมือนรอ อะไรซักอย่าง.....

ดา.. ดาครับ  ดาอยู่ตรงนั้นมั๊ย  “สียงนี้ทำให้ชั้นรีบลุกขึ้นยืน ตาวาว ใจเต้นไม่เป็นจังหวะ เหมือนเป็นสิ่งที่ชั้นรอคอยมาทั้งวัน.. ชั้นอยากตอบว่าชั้นอยู่นี่  แต่ทำไมปากมันไม่อ้าออกมา เสีงไม่มีลอดออกมา..นี่ไมใช่เวลามางาอนนะว๊อย ชั้นบอกตัวเอง
“ดา.. ผมอยากคุยกับคุณจัง อยากเจอคุณด้วย...คุณอยู่ไหน.”เสียงของราน ดู เหนื่อยๆ แผ่วๆ ออกกำลังกาย กับยัยใส ทั้งวันล่ะสิ!!
“ชั้นอยู่นี่ มีอะไรเหรอ” ชั้นพยายาม ทำเสียงให้เป็นปรกติที่สุด  “รีบๆพูดนะ ชั้นจะไปนอนแล้ว” น่าน นังนี่!! คิดถึงเค้าทั้งวัน แต่พอเค้ามาคุยด้วย ดันดัดจริตเล่นตัว..ชั้นด่าตัวเอง



“งั้นผม ปีนหน้าต่างระเบียงไปหาคุณนะ “  เฮ็ย!!จะบ้าเหรอ อยู่ๆ จะปีนมาห้องชั้นได้ไง แล้วชั้นอยู่ในชุดนอน  เวรล่ะทีนี้ หน้าต่างระเบียง??ตรงไหนวะ  ชั้นทั้งวิ่งหาเสื้อคลุม ทั้งส่องกระจก(ส่องทำไมวะ แต่ผู้หญิงอย่าหยุดสวยอ่ะนะ) ทั้งวิ่งไปที่ระเบียง แบบไม่รู้ว่า จะไล่ไป หรือ จะไปรับเข้ามาดี  ยังไม่ทันออกไปที่ระเบียง  รานก็ปีนข้ามมา กระโดดลงที่ในห้องชั้นเป๊ะ 
“นายจะบ้าเหรอ!! มาปีนเข้าบ้านคนอื่นได้ไง  ดึกดื่น แล้วชั้นเป็นผู้หญิงนะยะ”ชั้นวีน ทันที แต่ในใจแอบยิ้ม ดีใจที่เจอหน้าราน...เค้าดูซีด ดูเหนื่อย.. 
“เฮ้ย!!ราน คุณเป็นอะไรมั๊ย “ชั้นก้มลงประคองรานไว้ โห..ตัวร้อนจี๋เลย.. นี่ขนาดมันไม่มีแรง มันยังปีนข้ามมาได้นะ!! ตาคนนี้ ร้ายว่ะ ชั้นนึกในใจแต่  รานก็ มาในห้องนอนชั้นจนได้.. อ้าว เฮ้ย!! ไอ้ดา.. หิ้วผู้ชายเข้าห้องแล้วไง
“คุณนี่อะไร!! สองครั้งแล้วนะ ที่ชั้นต้องดูแลคุณเนี่ย “ชั้นบ่นอุบ ก็มันจริงนี่นา..  ชั้นวางรานให้เอนกายลงบนSofa
“คุณตัวร้อนมาก  ..รานคุณไม่สบายเหรอ ทำไมคุณไม่บอกชั้น แล้วชั้นเห็น ยัยใสเค้าไปหาคุณ ทำไมคุณไม่บอกใส ทำไม..คุณ...”ยังไม่ทันจะร่ายจบ  รานก็ดึงตัวชั้นลงไปกอดแนบอก
“ผมนึกว่า ผมจะไม่ได้เจอคุณแล้ว” รานกอดชั้นไว้แน่น เท่าที่เค้ามีแรงจะทำได้ตอนนั้น มั๊ง  ชั้นไม่ได้ดันตัวเองหนีออกมา  และได้เสียงหัวใจของเค้าชั้นได้ยินชัดเจน  
“อย่าเพิ่งไปไหนนะคุณ.. ขอผมอยู่อย่างนี้ แป๊บเดียว” ..ชั้นคิดในใจว่าชั้นคิดเงินเป็นนาที  ท่าจะเก๋ เหมือนหมอจิตแพทย์ที่เมืองนอก คนไข้เข้าปุ๊บ กดเครื่องจับราคา จับเวลาเลย.. ชั้นลองดันตัวเอง หนีออกจากอกราน    เหมือนรานจะหลับ ชั้นเดินไปเอาผ้าชุบน้ำอุ่น มาเช็ด หน้า คอ แขน ให้ราน...เช็ด จนตัวเริ่มเย็นลง...ปวดแขนว่ะ   ชั้นเหนื่อย ขายส้มตำมาทั้งวัน  แล้ว ยังมาคิดเรื่องราน  แล้วมาเช็ดตัวให้อีก.. เวร ชั้นจริงๆ ..


และชั้นก็เผลอหลับไป ข้างๆราน จนแดด ส่องเข้ามาทางหน้าต่าง... ชั้นงัวเงียขึ้นมา   รานหายไปไหน ... หรือ ชั้นฝันไปว่า รานมา แต่ผ้ากับกะละมังเล็ก ก็ยังอยู่นี่นา เออ สงสัยหายดีแล้วปีนกลับบ้านไปแล้ว  ชั้น เข้าไปอาบน้ำ ล้างหน้า แล้วเดินลงมาข้างล่าง..  








กลิ่นกาแฟนี่นา หอมจัง  มีกลิ่นขนมปังด้วย  ..ชั้นรีบลงมาทันที..รานอยู่ตรงนั้น ในห้องนั่งเล่น  มีกาแฟสด หอมกรุ่น แดด อ่อนๆ ส่องเข้ามาตอนเช้า  มาขนมปังสดๆ รานเพิ่งอบมามั๊ง วางอยู่บนโต๊ะ ที่มีผ้าคลุมน่ารักๆ กับ ดอกไม้ป่า สีขาว ในแจกัน กลมเล็กๆ..
“อรุณสวัสดิ์ครับ  ผมเตรียมอาหารเช้าให้ คุณคงไม่ว่าที่ผม ถือ วิสาสะ ใช้ห้องครัวของคุณนะ” .. อะไรนะยะ  ? ถือวิสาสะเหรอ! แล้วที่ไอ้ปีนระเบียงมาห้องนอนชั้น เมื่อคืน  มันมากกว่า มาใช้ห้องครัวชั้นนะยะ !!  
“คุณเป็นไงบ้าง ดีขึ้นมั๊ย ทำไมไม่ไปพักผ่อน   หรือ  มาโด๊ป รอ ยัยใสมาหา  เมื่อวานไม่พอล่ะสิ“ น่าน!! ปากเสียแล้วชั้น  ไปพาลคนอื่นได้  ชั้นพยายามปั้นหน้า ให้เรียบนิ่งที่สุด แต่ทำไม มันปั้นยากวะ  หน้าตอนนี้ของชั้นคงตลกน่าดู  ..รานเดินเข้ามาหาชั้น  จนใกล้..แล้วค่อยๆ ดันให้ชั้นจนตรอก(บ้าน) หลังพิงฝา...เฮ้ยๆ.. ไม่ต้องใกล้ขนาดนี้!  
“หึงผมเหรอ” รานพูดเบาๆ แล้วยิ้มนิดๆ  ชั้นพยายามเถิบถอยหลัง แต่มันชนฝา...ชั้นส่ายหน้า แล้วก้มหน้าลงมองพื้น  รานก้มหน้ามาใกล้อีก ..โอยย  ถ้าหัวใจชั้นเป็นแบบ การ์ตูน  มันคงกระเด็นออกมาแล้วล่ะ  
“งั้นผมจะอธิบาย เรื่องจริงล่ะนะ..เมื่อคืนก่อนที่เรานั่งพิงกำแพงคุยกัน ผมนอนไม่หลับ ผมนั่งอยู่จนนั้นจนถึงเช้า  แล้วคืนนั้น ลมเย็นมาก  ผมรู้ตัวอีกที ผมก็วดหัว เหมือนหัวจะระเบิด  ผมพยายามลงมาข้างล่าง จะมาหาคุณ   “ตอนนี้ รานเริ่มยิ้มอายๆ “ แต่พอเปิดประตูมา ผมเจอใส  ตอนนั้น ผมเจอแสงแดด ผมเลยตาพร่า วูบไปกองที่พื้น  ใส เป็นคน พยุงผม มานอนที่ sofa  ผมตื่นมาช่วงเย็นๆ ใสบอกว่า ผมนอนตั้งแต่เช้า ตัวร้อน แล้วใสก็เอาผ้าชุบน้ำ วางที่หน้าผากผม คอยเปลี่ยนผ้าชุบน้ำให้ จนไข้ผมลด   แต่ใสไม่ได้เช็ดตัวผมนะ   ถ้าคุณไม่เชื่อผม ไปดูกล้องงจรปิดได้ ใสนั่งเล่นคอม  กินขนม กาแฟ ในร้านผม จนเกือบเกลี้ยง ฮ่าๆๆๆ “ ต๊ายยย ร้าน หรูนะคะ  มีกล้องวงจรปิดด้วย !! เราสองคนอมยิ้มพร้อมกัน “ พอถึงตอนเย็น ผมไม่เห็นคุณ ผมไม่สบายใจ  คิดว่า คุณคงเข้าใจผิด  ผมเลยต้องปีนระเบียงมาหาคุณเมื่อคืนไง แต่ดัน ไข้ขึ้นอีกรอบ...”
“แล้วปีนมาทำไม มาอธิบายให้ชั้นฟังทำไม” ชั้นทำไม่รู้ไม่ชี้   รานก้มหน้าลงแล้วริมฝีปากของราน สัมผัสที่แก้มของชั้น  จมูกของรานชนแก้มชั้นด้วย...ชั้นรู้สึกว่า หน้าชั้นแดงแป๊ด  เฮ้ย!! ไอ้ดา ! ทำไม แกใจง่ายงี้วะ  ตบเค้าสิ ตบเลย เหมือนในหนังน่ะ..สมองสั่งให้ตบราน ที่มาขโมยหอมแก้ม  แต่ ร่างกายมันไม่ขยับ...และยิ่งระทวยม้วยมอด เป็นอีกเท่าตัว   เมื่อรานกระซิบ ข้างหูว่า “ ผม รัก คุณนะดา “ แล้วประกบริมฝีปาก บางๆของเค้าลงบนริมฝีปากนุ่มๆ ของชั้น...อือม.. ณ วินาทีนี้  ถ้ายัยใส เดินเข้ามา ชั้นจะเอาหม้อต้มปลาร้าเขวี้ยงใส่ทันที...ชั้นก้มหน้าลงแล้ว ค่อยๆ ผลักรานออกไปในระยะ สองฟุต
“ไม่เร็วไปหน่อยเหรอ ราน เรารู้จักกันไม่นานนะ “ ชั้นไม่ค่อยแน่ใจว่ารักชั้นไวขนาดนั้นเลยเหรอ  รานพาชันไปนั่งบน sofa แล้วกุมมือชั้น ..
“ผมเห็นดาตั้งแต่วันที่ดาย้ายเข้ามา ดาดูสดใส เป็นตัวของตัวเอง ดาขยัน ดาไม่เหมือนหญิงอื่นทั่วไป ที่ วัน วัน แต่งตัวสวย หาทางหาเงินมาใช้ แบบเรื่อยเปื่อย  ไร้สาระ   ดามีสมอง และมีจิตใจดี    คุณไม่รู้หรอกหรอกว่า ผมนั่งพิงกำแพงทุกคืน ผมอยากรู้ว่า คุณทำอะไร สบายดีมั๊ย” อ้าว ตาคนนี้โรคจิตนี่นา
“นายเป็นโรคจิตเหรอ ราน “ชั้นทำหน้า ไม่ค่อยแน่ใจ
“โรคจิต เพราะคิดถึงคุณ” รานทำหน้าทะเล้น...  “ผมทุบกำแพงบ้าน เราสองหลัง ให้เป็นหลังเดียวกันได้มั๊ย เราจะได้อยู่ด้วยกัน   แต่งงานกับผมนะ “ ราน รุก รุกราน ทันที  ชั้นกำลัง งงๆ  
“เดี๋ยวๆๆ  แล้วทำไมชั้นต้องอยู่กับคุณ  ชั้นยังไม่ได้บอกว่าตะแต่งงานกับคุณนะ บ้านเราเช่าเค้านะ  จะไปทุบได้ไง โดนจับเข้าคุกสิ  “ ชั้นพยายามเรียบเรียงคำพูดของตัวเองที่ชั้นยังงง
“รับปากมาก่อนสิ  ว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น คุณจะแต่งงานกับผม” รานรวบรัด
“นายจะบ้าเหรอ ถ้านายเป็นโจร เป็นโรคติดต่อร้ายแรง แล้วชั้นไปรับปากนาย ชั้นก็ซวยสิ”  รานหัวเราะ แล้วดึกชั้นเข้าไปกอด อีกครั้ง  ตานี หลอกกอดชั้นบ่อยไปแล้วนะยะ
“ok งั้นฟังนะครับ ผมไม่ได้เป็นโจร ไม่ได้เป็นโรคติดต่อร้ายแรง... บ้านผมมีธุรกิจ ร้านกาแฟในเมืองlondon แต่ผมอยากให้มีร้านของตัวเอง ในเมืองเล็กๆ ที่นี่ ผมเลยออกมาซื้อตึกนี้ไว้” เดี๋ยวๆๆ ซื้อไว้เหรอ หมาความว่า ทั้งสามห้อง นี่ของนายหมดเหรอยะ “ผมซื้อไว้ทั้งหมด แต่ไม่มีใครรู้ แม้แต่ใส  แล้วใส เป็นเพื่อนผมตั้งแต่ช่วงผมเรียน มหาวิทยาลัย  ผมไม่คิดอะไรกับเค้าเลย แต่เค้า เป็นฝ่าย ทึกทักเอาฝ่ายเดียวว่า ผมกับเค้าเป็นแฟนกัน ถ้าดาไม่เชื่อ เดี๋ยวเราไปหาใสเลยก็ได้นะครับ”
“แล้วตอนนี้ นายอายุเท่าไหร่  ถึงจะมาขอชั้นแต่งงาน นายกล้ามาก” ชั้นไม่ชอบคนอายุน้อยกว่า เพราะไม่ค่อยมีความคิด
“30 ครับ”  รานตอบอย่างมั่นใจ  ..30!!! ว๊ากกก
“ห๊า!! นี่นายเป็นรุ่นน้องชั้นเหรอ ชั้น 34 นะ !!  ไม่เอาๆๆๆ ชั้นไม่ชอบเด็ก”ชั้น วี๊ดแตกทันที
“เด็กกว่า แล้วผิดตรงไหนล่ะคุณ!! คุณก็เห็น ผมมีความคิดความอ่าน มากกว่า คุณหลายอย่าง ไม่ใช่ว่า คุณอายุมากกว่าผม แล้วผมจะเป็นหัวหน้าครอบครัวไม่ได้นี่นา” รานยังคง รุกชั้นต่อ  นี่เป็นหลักรปะกันว่า ผมจะแต่งงานกับคุณ  รานเปิดกล่องแหวนเพชรออกมา  แล้วสวมลงที่นิ้วนาวข้างซ้ายของชั้น..“ ไม่ใช่ของปลอม นี่ใบรับประกันจากร้าน ที่ดังที่สุดใน ห้าง แฮ รอท ...คุณจะเช็คตอนนี้ ผมก็ไม่ว่า..และนี่กุญแจบ้านของผม ร้านของเรา...แล้วอีกอย่างนะ...” รานเข้ามากระซิบที่ข้างหูชั้น “เด็กอย่างผม แรงดี ไม่มีตก “ชั้นกำลังจะต่อยปากทะลึ่งๆของราน แต่รานกอดชั้น แล้วโน้มชั้นลง Sofa......ร่างของเรานอนกอดกันอยู่บน sofa
Xxxx
รานก้มหน้าลงมาจูบชั้น  จูบของรานมันหอม หวาน  มีกลิ่นไอ กาแฟ..อือม ชั้นชอบจัง  รานกอดชั้น แล้วจับแขนชั้น ให้มากอดเค้าไว้  มือซุกซนของเค้าเลื่อนมาจับที่ผมของชั้นและที่แผ่นหลัง    นิ้วกำลังจะเกี่ยวตะขอเสื้อชั้นในชั้นออก ชั้นเอื้อมมือไปตี มือของราน แล้วทำเสียงเอ็ด เบาๆ ..ยังไม่ถึงเวลาไอ้น้อง... รานอุ้มชั้นขึ้นไปบนห้องนอน จากนั้น ถอดเสื้อผ้าชั้นออก จนเหลือชุดชั้นใน แล้วรานก็หยุด แล้ว หยิบกางเกงนอนของชั้นมาให้ชั้นสวม ..แล้วหันมาหาชั้น..
“ไม่ได้  ผมทำไม่ได้   เราต้องทำให้มันถูกต้อง.. ไปกันเถอะ ดา  พ่อ แม่คุณอยู่ที่ไหน  ผมจะให้ พ่อ กับ แม่ผมไปสู่ขอ” ..อะไรวะ ตาคนนี้ ชั้นกำลังเคลิ้ม ๆ  ดัน ลุกขึ้นมา ดื้อๆยังงั้น ชั้นนั่งบื้อ  เพราะ ตามอารมณ์ไม่ถูก
“ชั้นตัวคนเดียว ราน..พ่อ แม่ ทิ้งชั้นไปตั้งแต่เด็ก ชั้น โตมาในสถานเด็กกำพร้า  คุณแม่ที่บ้านนั้น  เหมือนแม่คนเดียวที่ชั้นมี  คุณคงรังเกียจชั้น..” ชั้นเริ่มซึม.. โธ่..ใครจะมาอยากแต่งงงานกับ เด็ก กำพร้าอย่างชั้นนะ ชั้นก็ลืมเรื่องนี้เลย  รานเข้ามากอดชั้นไว้
“ผมจะดูแลคุณเอง ต่อไปนี้ คุณจะไม่ตัวคนเดียว  เราจะมีกันตลอดไปนะดา” รานจูบที่หน้าผากชั้น แล้วดึงเข้ามากอด   
“งั้น เราไปหา พ่อ กับ แม่ผมนะ  ท่านใจดี  แล้วเราแต่งงานกัน ทำให้ถูกต้อง  ตกลงนะครับ” รานจ้องหน้าและมองเข้าไปในดวงตาชั้น ชั้นพยักหน้าและกอดรานไว้แน่น
..ทุกอย่างราบรื่น  พ่อ แม่ของราน ท่านใจดี   แม่ของราน ชอบส้มตำ ปลาร้าชั้นมาก  ท่านบอกว่า จะเปิดร้านให้ ในห้างหรู ในเมืองและในห้าง แฮ รอท !!  และให้ชั้น ปรุง ปลาร้าสูตรลับของชั้นส่งไปที่ร้านสาขาต่างๆ   โดยชั้นได้ถือหุ้น 40 %  !!! งานแต่งงานของเรา เป็นไปแบบเรียบง่าย ไม่หรูหรา  พิธีถูกจัดขึ้นแบรวดเร็ว เพราะรานใจร้อน.. มีแต่ยัยใส ที่นั่งร้องไห้อยู่หน้างาน  จน รปภ. ต้องเชิญออกจากงานแต่งงงานไป..



 
เรือนหอของเราคือ ห้องแถวที่รานซื้อไว้  เราทุบ และปรับปรุงห้องทั้งหมด ให้เชื่อมต่อกัน..แน่นอน หมายถึงร้านของยัยใส หัวชมพูด้วย   คืนวันแรก ของการ ฮันนีมูน เราสองคนก็สานต่อ จากเรื่องบน sofa ที่เราทำค้างกันอยู่  .. 


ปั้นน้ำ เป็นตัว โดย  mdkenko  and the  หื่น Team-Abbza.com

No comments:

Post a Comment